รากเหง้าปัญหาของการออกเสียงของภาษาอังกฤษของคนไทย
ตอนที่ 1 : International Phonetic Alphabet(IPA) ภาคที่1
International Phonetic Alphabet(IPA)เป็นสัญลักษณ์มาตรฐานสำหรับการแทนเสียงพูดในทุกภาษา นักภาษาศาสตร์ใช้สัญลักษณ์เหล่านี้เพื่อแทนหน่วยเสียงต่าง ๆ ที่อวัยวะออกเสียงของมนุษย์สามารถเปล่งเสียงได้ โดยแทนหน่วยเสียงแต่ละหน่วยเสียงด้วยสัญลักษณ์เฉพาะที่ไม่ซ้ำกัน สัญลักษณ์ในสัทอักษรสากลนั้นส่วนใหญ่นำมาจากหรือดัดแปลงจากอักษรโรมัน สัญลักษณ์บางตัวนำมาจากอักษรกรีก และบางตัวประดิษฐ์ขึ้นใหม่โดยไม่สัมพันธ์กับอักษรภาษาใดเลย
ภาษาอังกฤษ จีน ไทย หรือ ภาษาใดๆ ในโลกก็จะมีสัญลักษณ์เหล่านี้กำหนดเอาไว้ บางทีก็เขียนกลับหัวกลับหาง เช่น ɐ ɔ ə ɟ ɥ ɯ ɹ ᴚ ʇ ʌ ʍ ʎ (ตัวหนังสือกลับหัวของ a c e f h m r ʀ t v w y) เพื่อใช้เเทนเสียงต่างๆ
ถ้านักเรียนภาษาได้ศึกษา IPA อย่างเข้าใจ รับรองว่าการออกเสียงจะไม่มีผิดพลาดเลย โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่มีปัญหามากพอสมควรเพราะเขียนอย่างเเต่ออกเสียงอีกอย่างในหลายคำมาก ๆ เกือบจะทั้งหมดก็ว่าได้ ซึ่งเเตกต่างกับภาษาไทยที่เขียนอย่างไรออกเสียงอย่างนั้น
ตัวอย่างนะครับ
ไทย : โชคดีมาก ( tʃoʊg-di-mɑg ) (โชก-ดี-มาก)
อังกฤษ : important ( ɪm-ˈpɔrt -nt ) (เอ๊ม-พร๊อด-เอิ้นท.) แปลว่า สำคัญ
อธิบาย : ฝรั่งเจ้าของภาษาจะออกเสียง i เป็นสระ เอ๊ะ มากกว่าจะเป็นสระ อิ เช่น Big อ่านว่า เบ๊ก มากกว่าจะเป็น บิ๊ก ไม่เชื่อลองออกเสียงดูซิครับ ^^ดังนั้นพยางค์แรก IM-PORT-ANT จึงอ่านว่า เอ๊ม
แต่ปัญหาจริงๆอยู่ที่พยางค์สุดท้าย อ่านว่า "เอิ๊นท"เป็นสระ เออะ ตามหลักการออกเสียงไม่ใช่สำเนียงอะไรเลย
นักเรียนอาจจะงงแล้วละสิ ตกลงอาจารย์เอาอะไรมาพูดให้ฟังเนี่ย !! ฮ่า ๆๆ
ที่นำมาเเสดงให้เห็นจริงๆก็ต้องการจะเอาหลักภาษาจริงๆมาสอนว่า การจะออกสำเนียงฝรั่งเนี่ยมันมีหลักการอยู่ไม่ใช่เเค่เลียนเเบบเท่านั้น
แล้วมาดูคนไทยออกเสียงคำนี้บ้าง
important แบบไทย : (im-pɔt-tænt) (อีม-พ๊อด-แท่น)
important แบบอังกฤษ ɪm-ˈpɔrt -nt ) (เอ๊ม-พร๊อด-เอิ้นท.)
เห็นไม๊ครับว่า คนไทยออกเสียงไม่ถูกเองเพราะใช้หลักของภาษาไทยคือ เขียนอย่างไรออกเสียงอย่างนั้น แต่ภาษาอังกฤษออกเสียงคำต่างจากที่เขียน ดังนั้นนี่คือรากเหง้าของปัญหาที่คนไทยฟังฝรั่งเจ้าของภาษาไม่ออก และพูดยังไงก็ไม่เหมือนฝรั่ง
แล้วทำไมต้องพูดให้เหมือนกับฝรั่งล่ะ ??
ตอบ : นักเรียนรู้อยู่เเล้วว่าถ้าออกเสียงชัดเราก็มั่นใจมากยิ่งขึ้นและภูมิใจในตัวเองด้วยมันเป็นเรื่องของความรู้เเละความสามารถไม่ใช่การกระเเดะอย่างเเน่นอน และการที่เราออกเสียงชัดมันก็ยังสื่อว่าเราเป็นผู้ที่มีการศึกษาภาษาอังกฤษมาดีมากและมีทักษะเป็นเลิศจนพูดได้คล่องแคล่ว สำหรับการทำงานสำเนียงที่ดีก็เปรียบบดั่งปริญญาใบที่สองเลยล่ะครับ
นักเรียนเรามาจบตอนที่1เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวนักเรียนจะปวดหัวกับรายละเอียดที่เยอะมาก ก็เเหงละสิครับอาจารย์เล่นขุดรากเหง้าของปัญหาภาษาอังกฤษกับการออกเสียงของคนไทยมาถกให้นักเรียนดู มันก็ดูเยอะเป็นธรรมดา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น